ความเชื่อถือเกี่ยวกับคุณสมบัติแล้วก็คุณลักษณะ

พญานาค หรือ งูใหญ่มีหงอน ในตำนานของฝรั่ง หรือชาวต่างชาติ นับว่าเป็นผู้แทนของกิเลส ความทารุณ ซึ่งตรงกันข้ามกับคนตะวันออก ที่นับว่า งูใหญ่ พญานาค มังกร เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พลังอำนาจ โดยแขกฮินดูนับว่า พญานาคเป็นผู้ใกล้ชิดกับเทวดาองค์ต่างๆเป็นเทวดาที่น้ำ อย่างเช่น อนันตนาคราช ที่เป็นบัลลังก์ของพระนารายณ์ตรงกับความเลื่อมใสของลัทธิพราหมณ์ ที่มั่นใจว่า นาค เป็นเทวดาที่น้ำ ดังเช่นปีนี้ นาค ให้น้ำ 1 ตัว แสดงว่า น้ำจะมากมาย จะท่วมสำนักงานเกษตร ไร่ ถ้าหากปีไหน นาคให้น้ำ 7 ตัว น้ำจะน้อย จำนวนนาคให้น้ำจะสลับกันกับเรื่องราว เนื่องมาจาก ถ้าเกิดนาคให้น้ำ 7 ตัว น้ำจะน้อยเพราะว่านาคกลืนน้ำไว้

สำหรับความเชื่อถือเกี่ยวกับคุณสมบัติรวมทั้งคุณลักษณะแบ่งได้เป็นข้อดังนี้

1. พญานาค งูใหญ่ มีหงอน เครื่องหมายที่ความโหฬาร ความอุดมสมบูรณ์ ความมีบุญบารมี รวมทั้ง บันไดรุ้งกินน้ำสู่จักรวาล เป็นผู้มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์ จากการจำศีล บำเพ็ญภาวนา เชื่อถือในศาสนาพุทธ ไม่เอารัดเอาเปรียบคนอื่นๆ พวกเราจะประสบพบเห็น เป็นรูปปั้นหน้าโบสถ์ ตามวัดต่างๆบันไดขึ้นสู่วัดในศาสนาพุทธ ภาพเรื่องราวที่เกี่ยวเนื่อง กับพุทธอีกเยอะมาก pussy888

2. พญานาค เป็นสัตว์อัศจรรย์ ที่มีลักษณะพิเศษหมายถึงสามารถจำแลงได้ พญานาค มีอำนาจศักดิ์สิทธิ์ แล้วก็มีชีวิตใกล้กับคน พญานาค สามารถแปลงเป็นคนได้ เป็นต้นว่าคราวที่แปลงเป็นคนมาขอบวชกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในหนังสือไตรภพพระตก พูดถึงนาคที่ชื่อ ถลชะ ที่มีความหมายว่า กำเนิดบนบก จะสร้างกายได้เฉพาะบนบก แล้วก็นาคชื่อ ชลซะ แสดงว่า มีเหตุที่เกิดจากน้ำ จะสร้างกายได้เฉพาะในน้ำเพียงแค่นั้น อย่างไรก็แล้วแต่ ถึงแม้ว่าพญานาคจะสร้างกายเป็นอะไร แม้กระนั้นในสถานการณ์ 5 แบบนี้ ควรต้องปรากฏเป็นงูใหญ่ตัวอย่างเช่นเดิมหมายถึงขณะกำเนิด ขณะลอกคราบ ขณะสู่สมกันระหว่างนาคกับนาค ขณะที่กำลังหลับ โดยขาดสติ รวมทั้งที่สำคัญ ตอนตาย ก็กลายเป็นงูใหญ่ดังเดิม

3. พญานาค เป็นพิษร้าย สามารถประทุษร้ายคนอื่นได้ด้วยพิษ ถึง 64 ประเภท ซึ่งตามตำนานพูดว่า สัตว์พวกงู แมงป่อง ตะขาบ คางคก มด อื่นๆอีกมากมาย เป็นพิษได้ ซึ่งก็ดังที่ นาคคายพิษทิ้งเอาไว้ แล้วพวกงูไปเลีย พวกที่มาถึงก่อนก็เอาไปๆมาๆก พวกมาคราวหน้า ตัวอย่างเช่น แมงป่อง กับ มด ได้พิษน้อย เพียงแค่เอาหาง เอากันไปป้ายเศษพิษ ประเภทนี้ก็เลยเป็นพิษน้อย แล้วก็พญานาคจำต้องคายพิษทุก 15 วัน

4. พญานาค อาศัยอยู่ใต้ดิน หรือบาดาล คนสมัยก่อนมั่นใจว่าเมื่อบนสรวงสวรรค์มีเทวดาอาศัยอยู่ลึกลงไปใต้แผ่นดิน ก็คงจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ ในหนังสือไตรภพพระตก พูดว่า ที่นาคอยู่นั้นลึกลงไปใต้ดิน 1 โยชน์ หรือ 16 กิโล มีวังราชวังที่น่าพิศวงไม่แพ้สรวงสวรรค์ ที่มีอยู่ถึง 7 ชั้น เรียงซ้อนๆกัน ชั้นสูงๆก็จะเป็นสุขราวกับสรวงสวรรค์

5. พญานาค สามารถสืบพันธุ์กับสัตว์ประเภทอื่นได้ เปลี่ยนร่างแล้วสืบพันธุ์กับมนุษย์ได้ เมื่อนาคตั้งครรภ์จะคลอดเป็นไข่ราวกับงู มีอีกทั้งจำพวกเศียรเดียว 3, 5 และก็ 7 เศียร สามารถขึ้นลง ตั้งแต่ใต้บาดาลแผ่นดิน จนกระทั่งสรวงสวรรค์ ในทุกตำนานชอบพูดถึงนาคที่ขั้น-ลง ระหว่างเมืองบาดาล กับเมืองสวรรค์ ที่จะแปลงตัวเป็นอะไรจากที่คิด ตามสถานการณ์เหตุนั้นๆ

จะมีความเห็นว่า พญานาค หรือ งูใหญ่ นั้นมีที่มาที่ไปรวมทั้งถิ่นที่อยู่เป็นสัดส่วนในโลกหนึ่งต่างหาก จะมีเป็นบางครั้งที่มนุษย์สามารถเห็นได้ พญานาค เป็นอีกทั้งเอกลักษณ์ของความดีเลิศ รวมทั้งความไม่ดี

ความศรัทธาเกี่ยวเนื่องกับชีวิต น้ำ ธรรมชาติ

พวกเรามักมากยินอยู่ตลอดว่า ปีนี้นาคให้น้ำเยอะแค่ไหน กี่ตัว ฝนดี ไหมดี นาคให้น้ำสร้างความอุดมสมบูรณ์แก่ทุกๆชีวิต ทั้งสิ้น โดยพญานาคที่อาศัยอยู่ในสรวงสวรรค์ใต้น้ำ ตามคติฮินดู พญาอนันตนาคราช แท่นบรรทมของพระนารายณ์ ที่เชื่อถือเป็นทวยเทพเทวดา ดังนี้ พญานาค เปรียบได้เสมือนดั่งท้องน้ำทั้งหลายแหล่ในจักรวาล นาคมีอำนาจศักดิ์สิทธิ์บันดลให้ฝนตกหรือเปล่าตกก็ได้ ตลอดจนสามารถจำแลงกายเป็นเมฆฝนได้ พญานาค...เป็นสาเหตุของแม่น้ำต่างๆอันหมายคือแพทย์พลังที่ชีวิตทั้งหลายแหล่

ตามความเชื่อถือของพุทธศาสนิกชน ทวยเทพเทวดาที่น้ำหมายถึงวรุณแล้วก็สาคร ที่ต่างก็เป็นจอมที่พญานาค เว้นเสียแต่ที่เกี่ยวพันกับน้ำบนโลกแล้ว นาคยังเกี่ยวกับน้ำในสรวงสวรรค์อีกด้วย คนสมัยก่อนมั่นใจว่า รุ้งกินน้ำ กับ นาค เป็นอันเดียวกัน ที่เชื่อมระหว่างโลกมนุษย์กับโลกสรวงสวรรค์ข้างหนึ่งของรุ้งกินน้ำจะดูดน้ำจากผืนโลกขึ้นไปด้านบน เมื่อถึงจุดที่สูงสุดก็จะปล่อยน้ำลงมาเป็นฝนที่มีลำตัวของนาคเป็นท่อส่ง

ในตำนานสิงครั้งวัติ พูดว่า เมื่อเจ้าผู้ครองเมืองสิงคราววัติย้ายถิ่นคนมาจากด้านเหนือ พญานาคเปลี่ยนร่างมาช่วยชี้ที่ตั้งเมืองใหม่ แล้วก็ขอให้อยู่ในทศพิธราชธรรม เพียงพอตกช่วงกลางคืนก็ขึ้นมาสร้างคู 4 ด้าน เป็น เมืองนาคชนิดสิงคราววัติ ถัดมาปวดเมื่อยกกองทัพปราบเมืองอื่นได้ รวมทั้งรวมดินแดนเข้าด้วยกัน ก็เลยแปลงชื่อเป็น แว่นแคว้นโยนกพญางู

ที่เห็นได้ชัดก็คือ ที่วังพนมรุ้งกินน้ำ จะมีคูน้ำที่เป็นสระ 4 ด้าน รอบวังแล้วก็มี พญานาค อยู่ด้วย ตามความเลื่อมใสของคนสมัยก่อน นาคจะสื่อความหมายเป็นอันอื่นมิได้เว้นเสียแต่น้ำ เป็นต้นว่า การผลิตศาสนสถานไม่ว่าจะเป็นโบสถ์ นาคที่ราวบันได ก็เลยมี พญานาค ซึ่งตามจริง (ความศรัทธา) การผลิตจำต้องสร้างกึ่งกลางน้ำ เพื่อดูอย่างกับว่าศาสนสถานนั้นลอยอยู่เหนือน้ำ แม้กระนั้นก็ไม่ต้องสร้างจริงๆก็แค่มีเครื่องหมาย พญานาค ไว้ ดังเช่น ที่วังพนมรุ้งกินน้ำ จังหวัดบุรีรัมย์ ฯลฯ

หากแม้ความเลื่อมใสเกี่ยวกับชีวิตผู้คน ก็จะมีอยู่ในราศีกำเนิด เป็นต้นว่าของคนดาวฤกษ์ปีงูใหญ่ ที่สื่อความหมายถึง ความโหฬารแล้วก็พลังอำนาจ ที่มี พญานาค เป็นเครื่องหมาย

ตำนานความเชื่อถือเรื่องนาคให้น้ำ

พญานาค เป็นเครื่องหมายที่ธาตุน้ำ "นาคให้น้ำ" เป็นหลักเกณฑ์ที่ประชาชนทราบและก็ทราบดี ที่ใช้วัดในแต่ละปี ปริมาณนาคให้น้ำมีไม่เกิน 7 ตัว ถ้าหากปีไหนสมบูรณ์บริบูรณ์มีน้ำมากมายเรียกว่า "นาคให้น้ำ 1 ตัว" แม้กระนั้นถ้าหากปีไหนแห้งเรียกว่าปีนั้น "มีนาคให้น้ำ 7 ตัว" จะวัดตรงข้ามกับปริมาณนาค ก็คือที่น้ำหายไป กำเนิดความแล้งนั้นก็เพราะเหตุว่า พญานาคเกี่ยงงอนกันให้น้ำ แต่ละตัวก็เลยกลืนน้ำไว้ในท้องไม่ยินยอมพ่นน้ำลงมา